วิธีการสร้างอัจฉริยะ
หลักสูตร
ระบบการเรียน
หนังสือเรียน
การประเมินผล
โจทย์ท้าทาย
ชุดสื่อการเรียนคณิตศาสตร์อัจฉริยะ
Q & A
 
 



 
 
     

เส้นทางการเรียนรู้สู่ผลสัมฤทธิ์ทางคณิตศาสตร์


 
Learning System
ซ่อมจุดอ่อนและเสริมจุดแข็งด้วย 38 ยุทธวิธี
ของคิงแมทส์ นักเรียนจึงได้รับการพัฒนาตรงจุด
 

Student Report
ผู้ปกครองสามารถตรวจสอบผลการเรียน
ผ่านระบบออนไลน์ เพื่อติดตามพัฒนาการ
ของนักเรียนอย่างต่อเนื่อง

Kingmath Classroom
ห้องเรียนที่แบ่งตามระดับการเรียนรู้เรียนทฤษฏีและฝึกทฤษฏี ไม่เกิน 10 คนต่อห้อง นักเรียนจึงสามารถเรียนรู้ได้อย่างเต็มที่


Manipulative Kit
สร้างทัศนคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ Math Toy ที่เสริมสร้างทักษะการแก้ปัญหาและช่วยให้การเรียนคณิตศาสต์ กลายเป็นเรื่องง่ายและสนุก

Monitoring Perception
ตรวจสอบความเข้าใจอย่างต่อเนื่องก่อนเรียน ระหว่างเรียน และหลังเรียน เพื่อติดตามพัฒนาการอย่างใกล้ชิด


หลักสูตร KingMath


     หลักสูตร KingMath เป็นหลักสูตรคณิตศาสตร์เน้นด้านการแก้ปัญหา (Problem Solving)ที่ได้รับความนิยม
และเชื่อถือเป็นอันดับ 1 จากประเทศเกาหลีใต้ โดย Mr. Park Myung Jun ครูสอนคณิตศาสตร์ระดับประถมผู้มีประสบการณ์การสอนนานกว่า 20 ปีเป็นผู้คิดค้นและพัฒนายุทธวิธีแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์รวม 38 ยุทธวิธีขึ้นมาเพื่อ ทำให้การแก้ปัญหาโจทย์ยากๆ กลายเป็นเรื่องง่ายสนุกและมีประสิทธิภาพ

     เนื้อหาของหลักสูตร KingMath มีความสอดคล้องกับเนื้อหาของกระทรวงศึกษาไทย จึงช่วยให้นักเรียนมีผลการเรียนดีขึ้น โดยระบบการประเมินผลของ KingMath ที่สามารถวิเคราะห์จุดอ่อนและจุดแข็งของนักเรียนออกมาเป็น 10 ด้าน
ซึ่งประกอบด้วย

ทักษะการเรียนรู้ 4 ด้าน สาระการเรียนรู้ 6 เนื้อหา
  • การคิดคำนวณ (C)
  • ความเข้าใจ (U)
  • การให้เหตุผล (R)
  • การแก้ปัญหา (P)
  • จำนวนและการดำเนินการ
  • เรขาคณิต
  • การวัด
  • ความน่าจะเป็นและสถิติ
  • พีชคณิต
  • กฎและหน้าที่

     ผู้สอนจะทำการแก้ไขจุดอ่อนด้วยวิธีการและเนื้อหาที่เหมาะสม พร้อมกับ เสริมสร้างความแข็งแกร่งทางคณิตศาสตร์
ต่อไปในระดับที่สูงขึ้นด้วย 38 ยุทธวิธี ในการแก้โจทย์ของ KingMath
ที่ถูกออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการสอนคณิตศาสตร์ ทำให้หลักสูตรได้รับความนิยมสูงสุด มีสถาบันที่เปิดสอนหลักสูตร KingMath ทั้งในโรงเรียนและนอกโรงเรียน

38 ยุทธวิธีการแก้โจทย์ปัญหา
1.การแก้โจทย์ปัญหาภายใต้สถานการณ์สมมติ
2.การแก้โจทย์ปัญหาโดยการวาดภาพ
3.การแก้โจทย์ปัญหาโดยใช้แผนผัง
4.การแก้โจทย์ปัญหาจากกฎ
5.การแก้โจทย์ปัญหาจากแผนภูมิต้นไม้
6.การแก้โจทย์ปัญหาด้วยหลักการ
7.การแก้โจทย์ปัญหาด้วยการจัดการ
8.การแก้โจทย์ปัญหาโดยตั้งสมการ
9.การแก้โจทย์ปัญหาจากการคิดย้อนกลับ
10.การแก้โจทย์ปัญหาด้วยวิธีง่ายๆ
11.การแก้โจทย์ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับจำนวนและจำนวนเต็ม
12.การแก้โจทย์ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเศษส่วนและ
จำนวนเฉพาะ
13.การแก้โจทย์ปัญหาการหารและการคูณ
14.การแก้โจทย์ปัญหาความน่าจะเป็นและสถิติ(จำนวน)
15.การแก้โจทย์ปัญหาที่เป็นกราฟแสดงอัตรา
16.การแก้โจทย์ปัญหาที่เป็นกราฟบวกและลบ
17.การแก้โจทย์ปัญหาโดยไม่ใช้สมการ
18.การแก้โจทย์ปัญหาโดยการคำนวณแบบกระจาย
19.การแก้โจทย์ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการทวีคูณและการลดลง
20.การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความเร็ว
21.การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับกฎและฟังก์ชัน
22.การแก้โจทย์ปัญหาที่เป็นกฎในปัญหา
23.การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับงาน
24.การแก้โจทย์ปัญหาที่มีการเปลี่ยนแปลงก่อนและ
หลังการเพิ่ม
25.การแก้โจทย์ปัญหาสัดส่วนและอัตราส่วน
26.การแก้โจทย์ปัญหาความหนาแน่น
27.การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับการกำหนดราคาและ
การขาย
28.การแก้โจทย์ปัญหาที่มีการเพิ่มขึ้นของตัวเลขและปริมาณ
29.การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับมุมและการวัดมุม
30.การแก้โจทย์ปัญหาเส้นรอบรูป
31.การแก้โจทย์ปัญหาการวัดพื้นที่ของรูปหลายเหลี่ยมและรูปวงกลม
32.การแก้โจทย์ปัญหาการเคลื่อนย้ายของรูปทรงและจุด
33.การแก้โจทย์ปัญหากลิ้งของรูปทรง
34.การแก้โจทย์ปัญหาการสร้างรูปทรงตัน
35.การแก้โจทย์ปัญหาการสร้างแผนที่และรูปทรง
36.การแก้โจทย์ปัญหาพื้นที่ผิวและรูปทรงตัน
37.การแก้โจทย์ปัญหาปริมาตรและรูปทรงตัน
38.การแก้โจทย์ปัญหาความจุ


 
   

KingMath Classroom


      เพราะผู้เรียนมีความสามารถทางคณิตศาสตร์ต่างกัน จึงต้องประเมินความรู้พื้นฐานทางคณิตศาสตร์ (Placement Test) เพื่อจัดห้องเรียนและแบบเรียนให้เหมาะสมตามระดับความสามารถ

จัดห้องเรียนและแบบเรียนให้เหมาะสมกับระดับความรู้

      โปรแกรมคณิตศาสตร์คิงแมทส์จัดระดับห้องเรียนเป็นลำดับขั้นมีความยากง่ายต่างกัน การแบ่งห้องเรียนจะแบ่งเป็นกลุ่มตามระดับความสามารถทางการเรียนรู้คณิตศาสตร์ของผู้เรียนผ่านการทดสอบ โดยทดสอบผู้เรียนตั้งแต่ระดับเบื้องต้นไปจนถึงระดับสูงตามมาตรฐานการเรียนรู้ เพื่อเทียบระดับในการจัดหนังสือเรียนหลักและห้องเรียนให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้เรียน โดยใน 1 ห้องเรียน จะรวมกลุ่มผู้เรียนที่มีระดับความสามารถใกล้เคียงกัน เพื่อให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยจำนวนผู้เรียนจะไม่เกิน 10 คนต่อห้อง


ระดับคะแนน (%) การแบ่งห้องเรียนตามมาตราฐาน
0-50 ระดับนิวตัน
51-80 ระดับเกาส์
81-100 ระดับยูคลิค
ตารางเทียบคะแนนเพื่อใช้ในการแบ่งห้องเรียนตามมาตราฐาน

 

Newton Level

ห้องเรียนนิวตัน (เนื้อหามาตรฐาน)

Alt text to go hereเหมาะกับผู้เรียนที่ต้องเริ่มเรียนรู้ตั้งแต่ทฤษฎี ผู้เรียนใช้หนังสือเรียนนิวตันเป็นแบบเรียนหลัก คุณครูเน้นการสอนทฤษฎีและหลักการทางคณิตศาสตร์ แล้วให้ผู้เรียนฝึกทำโจทย์ไปพร้อมกัน เพื่อให้ผู้เรียนสามารถแก้โจทย์ได้ด้วยตนเอง ผู้เรียนจะมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและถ่องแท้ พร้อมๆ กับได้ซ่อมจุดอ่อนและเสริมจุดแข็งอย่างเหมาะสม
Gauss Level

ห้องเรียนเกาส์ (เนื้อหาเจาะลึก)

เหมาะกับผู้เรียนที่มีพื้นฐานในระดับดี ผู้เรียนใช้หนังสือเรียนเกาส์เป็นแบบเรียนหลัก คุณครูสอนทฤษฎีและเน้นย้ำหลักการทางคณิตศาสตร์ที่สำคัญ แล้วให้ผู้เรียนฝึกทำโจทย์ไปพร้อมกัน เพื่อให้ผู้เรียนนำทฤษฎีไปใช้ในการแก้โจทย์ได้ด้วยตนเอง ผู้เรียนจะมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง และได้ฝึกแก้โจทย์ในหลายรูปแบบมากยิ่งขึ้นพร้อมๆ กับได้ซ่อมจุดอ่อนและเสริมจุดแข็งอย่างเหมาะสม

Euclid Level

ห้องเรียนยูคลิด (เนื้อหาระดับสูง)

เหมาะกับผู้เรียนที่มีพื้นฐานในระดับดีมากอยู่แล้ว ผู้เรียนใช้หนังสือเรียนยูคลิดเป็นแบบเรียนหลัก ครูผู้สอนจะสรุปทฤษฎีและหลักการทางคณิตศาสตร์ที่สำคัญ แล้วให้ผู้เรียนฝึกทำโจทย์ ซึ่งโจทย์จะมีความหลากหลายและท้าทายมากยิ่งขึ้น ผู้เรียนมีความเชี่ยวชาญในการแก้โจทย์ พร้อมๆ กับได้ซ่อมจุดอ่อนและเสริมจุดแข็งอย่างเหมาะสม

   
 

เรียนทฤษฎีการแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์

ในวิชาคณิตศาสตร์ การเรียนรู้ทฤษฎีให้เข้าใจที่มาอย่างถ่องแท้มีความสำคัญมาก ในการเรียนการสอนในห้องเรียนคิงแมทส์จะมีคุณครูเป็นผู้สอนทฤษฎี เทคนิคและยุทธวิธีต่าง ๆ ขึ้นกระดานให้ผู้เรียนเข้าใจอย่างถ่องแท้เพื่อนำไปฝึกแก้โจทย์
   

ฝึกทฤษฎี

ผู้เรียนคิงแมทส์จะได้ฝึกทฤษฎีเพื่อตรวจสอบความเข้าใจในเนื้อหาและทฤษฎีที่เรียนไปก่อนที่จะนำทฤษฎีไปใช้ในการแก้โจทย์ปัญหา
 ตัวอย่าง : เวลาที่ใช้สอนผู้เรียน 1 บท หนังสือเรียนนิวตัน
ครั้งที่ 1   ครั้งที่ 2   ครั้งที่ 3
  เนื้อหา เวลา(นาที)
  Pre Test (เริ่มบทที่ 1) 10
  + แบบเรียนทฤษฎี 1 5
  + การฝึกใช้ทฤษฎี 10
  + แบบเรียนทฤษฎี 2 5
  + การฝึกใช้ทฤษฎี 10
  + แบบเรียนทฤษฎี 3 5
  + การฝึกใช้ทฤษฎี 10
  + สรุปการเรียนการสอน 5
  รวมเวลา 60
     
  เนื้อหา เวลา(นาที)
  + แบบเรียนทฤษฎี 4 5
  + การฝึกใช้ทฤษฎี 10
  + แบบเรียนทฤษฎี 5 5
  + การฝึกใช้ทฤษฎี 10
  + แบบเรียนทฤษฎี 6 5
  + การฝึกใช้ทฤษฎี 10
  + สรุปการใช้ทฤษฎีให้แม่นยำ 15
     
  รวมเวลา 60
     
สอบท้ายบทที่1
(จบบทที่ 1)
 
แบบเรียนทฤษฎี : เป็นการอธิบายในกรอบเรียนรู้อย่างละเอียด พร้อมทำแบบฝึกหัดร่วมกับผู้เรียนในส่วนทบทวน
การฝึกใช้ทฤษฎี : ให้ผู้เรียนทำแบบฝึกหัดด้วยตัวเอง เพื่อตรวจสอบความเข้าใจของผู้เรียนในแบบเรียนทฤษฎีที่เรียน
 
   

หนังสือเรียนคิงแมทส์



หนังสือเรียนพื้นฐาน


ระดับ 1 Newton ( นิวตัน ) เนื้อหามาตรฐาน
 

     เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นสร้างพื้นฐานกระบวนการคิดวิเคราะห์ให้นักเรียนสามารถแก้โจทย์ปัญหาได้ โดยครูผู้สอนเน้นการสอนทฤษฎีและหลักการทางคณิตศาสตร์ แล้วให้นักเรียนฝึกทำโจทย์ไปพร้อมกัน เพื่อให้นักเรียนรู้จักนำทฤษฎีไปใช้ในการแก้โจทย์ได้ด้วยตนเอง นักเรียนจะมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและถ่องแท้ พร้อมๆ กับเกิดความรู้สึกสนุกสนานและเกิดความรักในวิชาคณิตศาสตร์

     หนังสือเรียนนิวตันมีทั้งหมด 6 เล่มต่อระดับชั้น ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ในหนังสือ 1 เล่ม
มี 3 บท ใช้เวลาในการเรียนไม่เกิน 12 ชั่วโมงต่อเล่ม

 
ตัวอย่างเนื้อหาหนังสือเรียนระดับนิวตัน
     
 
 
     

     

 
 
 
ระดับ 2 Gauss (เกาส์) เนื้อหาเจาะลึก
(ยากขึ้น 1 ระดับจากระดับนิวตัน )

     เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นสร้างกระบวนการคิดวิเคราะห์ให้นักเรียนสามารถแก้โจทย์ปัญหาได้ โดยครูสอนทฤษฎีและเน้นย้ำหลักการทางคณิตศาสตร์ที่สำคัญ แล้วให้นักเรียนฝึกทำโจทย์ไปพร้อมกัน เพื่อให้นักเรียนนำทฤษฎีไปใช้ในการแก้โจทย์ได้ด้วยตนเอง นักเรียนจะได้ฝึกเนื้อหาที่เจาะลึกโดยโจทย์ยากขึ้น 1 ระดับจากระดับนิวตัน ส่งผลให้นักเรียนเข้าใจอย่างลึกซึ้งและถ่องแท้ พร้อมๆ กับเกิดความเชี่ยวชาญในการแก้โจทย์เห็นประโยชน์และเกิดความรักในวิชาคณิตศาสตร์ หนังสือเรียนเกาส์มีทั้งหมด 6 เล่มต่อระดับชั้น ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1- 6 ในหนังสือ 1 เล่มมี 3 บท ใช้เวลาในการเรียนไม่เกิน 12 ชั่วโมงต่อเล่ม

 
ตัวอย่างเนื้อหาหนังสือเรียนระดับเกาส์
 
 
 

     

 
 
 
ระดับ 3 Euclid (ยูคลิด) เนื้อหาระดับสงู
(เนื้อหายากขึ้น 2 ระดับจากระดับนิวตัน)

     เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นให้นักเรียนนำทฤษฎีไปประยุกต์ใช้กับเนื้อหาเจาะลึกนักเรียนจะได้ฝึกกระบวนการคิดวิเคราะห์ในเนื้อหาระดับสูงซึ่งยากขึ้น 1 ระดับจากระดับเกาส์ โดยครูผู้สอนจะสรุปทฤษฎีและหลักการทางคณิตศาสตร์ที่สำคัญ แล้วให้นักเรียนฝึกทำโจทย์เพื่อให้นักเรียนรู้จักนำทฤษฎีไปใช้ในการแก้โจทย์ได้ด้วยตนเอง ซึ่งโจทย์จะมีความหลากหลายและท้าทายมากยิ่งขึ้น นักเรียนจะมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและถ่องแท้ พร้อมๆ กับเกิดความเชี่ยวชาญในการแก้โจทย์ในหลายรูปแบบเห็นประโยชน์และเกิดความรักในวิชาคณิตศาสตร์

     หนังสือเรียนยูคลิดมีทั้งหมด 6 เล่มต่อระดับชั้น ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ในหนังสือ 1 เล่มมี 3 บท ใช้เวลาในการเรียนไม่เกิน 12 ชั่วโมงต่อเล่ม

 
ตัวอย่างเนื้อหาหนังสือเรียนระดับยูคลิด
     

     

 
 

หนังสือเรียนเสริมทักษะ


 
Must Know Computation (การคำนวณต้องรู้)
 

     เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นการทำความเข้าใจและการฝึกฝนความชำนาญเรื่องจำนวนและการดำเนินการพื้นฐานทางคณิตศาสตร์โดยครูผู้สอนเน้นการสอนทฤษฎีและหลักการทางคณิตศาสตร์ แล้วให้นักเรียนฝึกทำโจทย์ เพื่อให้นักเรียนรู้จักนำทฤษฎีไปใช้ในการแก้โจทย์ได้ด้วยตนเองให้ถูกต้องและรวดเร็ว นักเรียนจะมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและถ่องแท้ พร้อมๆ กับเกิดความรู้สึกสนุกสนานและเกิดความรักในวิชาคณิตศาสตร์

     หนังสือเรียน Must Know Computation มีทั้งหมด 6 เล่ม ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6

 
 
Must Know Problem Solving (การแก้โจทย์ปัญหาต้องรู้)
 

     เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นการสร้างกระบวนการคิดวิเคราะห์ด้านการแก้โจทย์ปัญหาให้นักเรียนด้วยเทคนิคการแก้โจทย์ที่หลากหลาย โดยครูผู้สอนเน้นการสอนเทคนิคและ 38 ยุทธวิธีในการแก้โจทย์เพื่อให้นักเรียนนำยุทธวิธีเหล่านี้ไปใช้ในการแก้โจทย์ปัญหาได้ด้วยตนเอง ซึ่งโจทย์มีความท้าทายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามระดับความยาก ( โจทย์ระดับเหรียญทองแดง โจทย์ระดับเหรียญเงิน โจทย์ระดับเหรียญทอง) ยุทธวิธีการแก้โจทย์เหล่านี้ จะช่วยเพิ่มพูนทักษะการแก้โจทย์ปัญหาและทักษะด้านแนวคิด ทำให้นักเรียนมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ พร้อมๆ กับเกิดความรู้สึกสนุกสนานเห็นประโยชน์และเกิดความรักในวิชาคณิตศาสตร์

     หนังสือเรียน Must Know Problem Solving มีทั้งหมด 6 เล่ม ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6

 
Must Know Figure (รูปทรงและเรขาคณิตต้องรู้)
 

     เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นการสร้างกระบวนการคิดวิเคราะห์ที่เกี่ยวกับรูปทรงและเรขาคณิตให้นักเรียนด้วยเทคนิคการแก้โจทย์ที่หลากหลาย โดยครูผู้สอนเน้นการสอนเทคนิคและยุทธวิธีในการแก้โจทย์เพื่อให้นักเรียนนำยุทธวิธีเหล่านี้ไปใช้ในการแก้โจทย์ปัญหาได้ด้วยตนเอง ซึ่งโจทย์มีความท้าทายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามระดับความยาก ( โจทย์ระดับเหรียญทองแดง โจทย์ระดับเหรียญเงิน โจทย์ระดับเหรียญทอง) ยุทธวิธีการแก้โจทย์เหล่านี้ จะช่วยเพิ่มพูนทักษะการแก้โจทย์ปัญหาและทักษะด้านแนวคิดที่เกี่ยวกับรูปทรงและเรขาคณิต ทำให้นักเรียนมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ พร้อมๆ กับเกิดความรู้สึกสนุกสนานและเกิดความรักในวิชาคณิตศาสตร์

     หนังสือเรียน Must Know Figure มีทั้งหมด 5 เล่ม ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 - 6

   
   
KingMath Extra (การแก้โจทย์ปัญหาเพื่อการแข่งขัน)
 

     เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นให้นักเรียนนำเทคนิคไปประยุกต์ใช้กับโจทย์ในรูปแบบต่าง ๆ โดยนักเรียนต้องฝึกทำโจทย์ด้วยตนเองซึ่งโจทย์มีความท้าทายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามระดับความยากโดยแบ่งเป็นระดับพื้นฐาน 1 พื้นฐาน 2 และประยุกต์ 3 ประยุกต์ 4 พร้องทั้งชุดข้อสอบจริงให้ฝึกฝน โจทย์จะคลอบคลุมทักษะการคิดคำนวณ (C) ความเข้าใจ (U) การให้เหตุผล (R) และการแก้ปัญหา (P) ครูผู้สอนจะสอนแก้โจทย์ด้วยเทคนิคและยุทธวิธีต่าง ๆ ให้หลังจากที่นักเรียนทำแบบฝึกหัดเสร็จแล้ว เพื่อให้นักเรียนนำเทคนิคไปใช้ในการทำข้อสอบจริงได้ด้วยตนเอง นักเรียนจะได้เจอโจทย์ที่หลากหลายรูปแบบจึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักเรียนที่ต้องการเตรียมความพร้อมเพื่อการแข่งขันหรือต้องการฝึกฝนการแก้โจทย์ในระดับสากล

     หนังสือเรียน KingMath Extra มีทั้งหมด 5 เล่ม ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2- 6

   
   
   
Untitled Document

Monitoring Perception

เพื่อให้การพัฒนานักเรียนตรงจุดและเหมาะสมกับระดับการเรียนรู้ รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนาทักษะในด้านที่เป็นจุดอ่อน ส่งเสริมให้เกิดการเข้าใจอย่างลึกซึ้ง คิงแมทส์จึงมีรูปแบบในการทดสอบและประเมินผล โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกันดังนี้

  • แบบประเมินความรู้ความสามารถทางคณิตศาสตร์ก่อนเรียน
  • ประเมินผลและติดตามพัฒนาการระหว่างเรียน
  • ประเมินและติดตามพัฒนาการหลังเรียน




แผนภาพแสดงขั้นตอนการประเมินผล



แบบประเมินความรู้ความสามารถทางคณิตศาสตร์ก่อนเรียน

 
Evaluation Test
     เป็นแบบประเมินเชิงวิเคราะห์ความสามารถ ด้านสาระและทักษะต่างๆ ทางคณิตศาสตร์ ของนักเรียนระบบจะประเมินผล โดยแบ่งระดับขั้น ของการประเมินจากคะแนนที่นักเรียนทำได้

 
 
Placement Test
     เป็นแบบประเมินก่อนเริ่มเรียนเพื่อเทียบระดับ ในการจัดหนังสือเรียนหลักให้เหมาะสมกับ กลุ่มนักเรียนและยังเป็นการเทียบระดับในการ แบ่งห้องเรียน โดยใน 1 ห้องเรียนจะรวมกลุ่ม นักเรียนที่มีระดับ ความสามารถใกล้เคียงกัน เพื่อให้การเรียนการสอน มีประสิทธิภาพสูงสุด
   
   
 

ประเมินผลและติดตามพัฒนาการระหว่างเรียน

 
Chapter Test
    แบบประเมินประจำบทใช้เก็บคะแนน เพื่อวิเคราะห์ความเข้าใจของนักเรียนในบทเรียนนั้นๆ ซึ่งคะแนน Chapter Test จะเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในการเรียนการสอนในบทเรียนนั้นๆ


Comprehensive Test
     เป็นแบบประเมินทบทวนเนื้อหาแต่ละบท ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนได้ทบทวนบทเรียนที่เรียนผ่านมาแล้วอีกครั้งหนึ่ง
   
 

ประเมินและติดตามพัฒนาการหลังเรียน

 
Book Test
    เป็นการประเมินประจำเล่มซึ่งเป็นแบบประเมินเชิงวิเคราะห์สาระและทักษะในแต่ละเล่ม จะเก็บคะแนนเพื่อติดตามพัฒนาการและประเมินจุดแข็งและจุดอ่อนของนักเรียน

 
 
Level Test
     เป็นแบบประเมินทุกๆ 3 เล่ม ที่ช่วยจัดระดับหนังสือที่เหมาะสมให้กับนักเรียน เมื่อเรียนจบเล่มที่ 1 – 3 หรือเมื่อเรียนจบเล่มที่ 4 – 6 ซึ่งใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน นักเรียนจึงมีโอกาสได้เลื่อน ระดับจากนิวตันเป็นเกาส์ หรือจากเกาส์เป็นยูคลิด จากการสอบ Level Test
   
   
 
 

   



บริษัท เอดู พาร์ค จำกัด
เลขที่ 3 ซอย 23 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 แขวงหนองบอน  เขตประเวศ  กรุงเทพฯ 10250

โทร : 02-747-3800 แฟกซ์ : 02-747-3890
E-mail : info@edupark.co.th
  Family Site :

Edu Park FAMILY SITE
Academic Council Corporation. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
 Copyright(c) 2008 Edupark.Co.,Ltd. ALL Rights Reserved